เขาว่าเลือดจระเข้...รักษามะเร็งได้
ทุกคนคงรู้จักจระเข้กันดีอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ ทุกส่วนของจระเข้เอาไปทำประโยชน์แปลงเป็นเงินได้ทั้งหมด ตั้งแต่เอาหนังมาทำเป็นกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ฯลฯ เนื้อเอาไปทำเป็นอาหารได้อร่อยเป็นเมนูเด็ดจริงๆ เห็นชาวไต้หวันหรือชาวจีนชอบมาเมืองไทยแล้วแวะไปเปิบเนื้อจระเข้กันหลายๆกรุ๊ปทัวร์กระดูกนั้นก็เอาไปทำยาเข้าเครื่องสมุนไพร ส่วนเลือดนั้นยิ่งมีประโยชน์ยิ่งใหญ่เพราะเอาไปทำเป็นอาหารเสริม จะเรียกว่ายาก็คงไม่เชิงเพราะ อย.ยังไม่ได้รับรอง เพียงแค่รับรองว่าเป็นอาหารเสริมเท่านั้น
จระเข้เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ มีชีวิตอยู่รอดมาได้หลายล้านปีโดยที่สัตว์รุ่นๆเดียวกันร่วมโลกสมัยโน้นต่างก็ทยอยสูญหายไปตามกาลเวลาเพราะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมของโลกได้ แต่จระเข้นั้นคงทนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอดมา เวลาเราไปเที่ยวที่ฟาร์มจระเข้ จะสังเกตุว่าสถานที่มันอาศัยอยู่จะเป็นแหล่งน้ำที่ไม่ค่อยสะอาดสักเท่าใดบางทีน้ำเป็นสีเขียวเลย แสดงว่าแหล่งน้ำนั้นต้องมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมากแน่นอนแต่เหตุไฉนจระเข้กับอยู่ได้อย่างสบาย ไม่มีการเจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้จึงมีนักทดลองทั้งของอเมริกาและของไทยจากมหาวิทยาลัยมีชื่อได้นำเลือดของจระเข้ไปทำการวิจัย จนพบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวของจระเข้สามารถสร้างสารโปรตีน ที่มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์ได้ จึงมีการนำไปทดลองกับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ที่โรงพยาบาลไม่รับแล้วและกลับมานอนรอความตายอยู่ที่บ้าน และก็แปลกที่เลือดจระเข้สามารถยืดชีวิตผู้ป่วยออกไปได้อีกนานอย่างน่ามหัศจรรย์ นี่ถ้าหากว่ารู้ตัวว่าเป็นมะเร็งแต่ระยะเริ่มต้นหากได้กินเลือดจระเข้เสียก่อนที่จะรุกลาม คิดว่าคงจะรักษาได้แน่ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องจดทะเบียนเป็นยารักษาโรคนั้น อย.ยังไม่รับรอง อย.บอกว่าเอาเป็นแค่อาหารเสริมไปก่อนนะตัวเอง เพราะจะต้องทำการวิจัยอีกนานจนกว่าจะยืนยันได้แน่นอนว่ารักษาโรคได้จริง
อย่างไรก็ตามแต่จากการค้นพบว่าเลือดจระเข้ที่นำมาให้คนกินโดยผ่านการ freeze drired แล้วนั้น สามารถที่จะต่อยอดไปรักษาโรคเอดส์ได้อีก ขณะนี้กำลังทดลองกันอยู่ รวมทั้งโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ โลหิตจาง ด้วย คงเป็นข่าวดีสำหรับคนเราที่เจ็บป่วยจากโรคต่างๆเหล่านี้ ถึงแม้ อย.จะยังไม่รับรอง แต่การทดลองนั้นได้รับรองแล้วว่า เลือดจระเข้สามารถยับยั้งเชื้อโรคได้จริง ดังนั้นหากใครก็ตามที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ก็น่าที่จะไปซื้อหาเลือดจระเข้ที่เขาได้ผลิตเป็นแค็ปซูลมาขายแล้วซึ่งตกเม็ดละประมาณ 15 บาท ก็น่าจะเป็นทางเลือกในการรักษาอีกทางหนึ่ง การดูแลรักษาตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นนั้นดีกว่า เพราะเป็นการป้องกัน หากขืนปล่อยให้โรคเป็นมากจนทางโรงพยาบาลบอกให้ไปนอนรออยู่ที่บ้านเถอะ แบบนั้นเห็นท่าจะสายเกินไป และเมื่อเป็นหนักถึงขนาดนั้นก็คงไม่มียาวิเศษขนานไหนที่จะรักษาตัวคุณให้กลับมาเป็นปกติได้อีกต่อไปแล้ว
ที่มา: http://oknation.nationtv.tv/blog/blacky/2013/10/22/entry-1